สรุป – Mobile Dev Talk ครั้งที่ 0

สรุปย่อ (มาก) – Mobile Dev Talk ครั้งที่ 0 หัวข้อ No More Difference http://mobiledevtalk.org/ (ปัจจุบัน Web ไม่อยู่แล้วนะครับ)

Intro

ครั้งแรกในประเทศไทยกับการรวมตัวกันของเหล่า Mobile Developer
ทุกแพลตฟอร์มในรูปแบบงานสังสรรค์แบบมีสาระแต่ไร้ความเป็นทางการ
หากคุณกำลังกังวล ไม่เก่ง? ไม่มีความสามารถ? จะเข้าร่วมได้มั้ย คำตอบคือได้แน่นอน!!
งานนี้เปิดกว้างสำหรับทุกคน เน้นสนุก เน้นมันส์ แต่ยังคงเพียบพร้อมไปด้วยสาระแบบจัดเต็ม

ค่าเข้างาน : อาหารสำหรับร่วมรับประทาน อย่างน้อย 1 อย่าง
สถานที่ : Play Space (Pocket Playlab) เอกมัย ซ.21 (office สวยมากครับ)
เวลาจัดงาน : 18:00-22:00
วันที่ : 16 กุมภาพันธ์ 2558

Schedule
18:00 – 19:00 Registration
19:00 – 19:10 Key Note (nuuneoi)
19:10 – 19:20 Mobile Application Trend for 2015 (nuuneoi)
19:20 – 19:50 Talk with marketing of MSeed & Pocket Playlab (Saiyai & Jakob)
19:50 – 20:15 Quality or Quantity (Akexorcist)
20:15 – 21:00 Talk with Lead Developer of Stamp, Wongnai and Ookbee
21:00 – 22:00 Networking

Meeting แบบนี้จะมี 3 แบบ
1. Meeting การรวมกลุ่มของ developer ให้มาเจอกัน
2. Hackatron อันนี้จะเป็นการแข่ง code
3. Conference เป็นการ conference เพื่อทำให้เกิดแนวคิด มุมมองใหม่ๆ มาแลกเปลี่ยนกัน

dev ส่วนมากไม่ค่อยคุยกันมักเก็บตัว ก็เลยเกิดงานนี้ขึ้นมา
จุดประสงค์ของงานก็คือ อยากให้ที่แบบนี้เป็น community มาแลกเปลี่ยนกัน
มาแชร์และแลกเปลี่ยน ความรู้ และประสบกาณ์

เช่น ผมเคยทำแบบนี้มานะ แล้วก็มีคนมาช่วยว่า แบบใช้วิธีนี้จะแก้ปัญหาได้ดีกว่านะ
จะได้ไปไวๆ ทั้งตัวเรา และทั้งสังคม Dev ในประเทศไทยเลย
ยิ่งให้ยิ่งได้ สังคมได้ แชร์กัน คนช่วยกัน (แล้วเราก็ได้ในทางอ้อมด้วยนะ)
เช่นแบบคนเก่งขึ้น แบ่งปันกันมากขึ้น เราก็จะหา resource, reference อ่านง่ายขึ้น
และ meetup ส่วนใหญ่มีแต่สาย Bussiness แต่ที่นี้รวมหมดเลย Bussiness / Design / Dev คุย แบบ Geekๆ ได้

Trend

ไตรมาส 4 (2014) Android อัตราตกลง, iOS เพิ่มขึ้นเล็กน้อย (เพราะ iPhone6) Windows Phone นิดหน่อย

User Android > IPhone 8 เท่าแต่ 10 Android User = 1 iOS User (อัตราจ่ายเงิน)
ดังนั้นมูลค่าในฝั่ง Android = 0.8, IPhone = 1 ซึ่งก็พอๆกัน (No More Difference ครับ)

Session นี้ Marketing ในฝั่งของ MSeed และ Pocket Playlab
ได้บอกว่าเราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ marketing มากในสายของ mobile application
และบอกอีกว่ากว่า 60% ของรายได้บน mobile application เป็น application ประเภท games

Trend ยังบอกด้วยอีกว่า Software จะร่วมกับ Hardaware มากขึ้น
Internet จะไปยังทุกอุปกรณ์ และใช้ software สั่งงาน
แนวคิดเหมือน Smart House ที่ Software จะคุมได้ทั้งหมดเลย

สายต่างๆของ Dev

  • Desktop
  • Mobile
    • Engine พวก Unity, libgdx, cocos
    • Cross : Titanium
    • Native
    • Hybrid : Phonegap แต่ไม่แนะนำเพราะ Performance ไม่ดี
  • Web ก็แนะนำให้ลง framework
  • ERP
  • Game

Talk คุยกับผู้ประกอบการ

สรุปคือ หาตลาดและทำเลย เพราะว่า “Idea is cheap” คือ ทุกคนก็คิดๆกันได้แต่ไม่ทำกัน

ทาง Pocket Playlab ได้พูดเกี่ยวกับระยะเวลาในการทำ Application ที่เขาได้ทำกันคือ
แรกๆ จะช้าเพราะเรายังไม่รู้ แต่หลังๆ ก็จะยังคงช้าอยู่ดี เพราะ พอเรารู้เราก็คิดว่ามันยังดีไม่พอ
เราก็พยายามออกแบบให้ดีมากขึ้นแต่ก็จะทำให้มันช้าไป ดังนั้นเราจะต้องพิจารณา ถึงจุดสมดุล

Quality VS Quantity

คุณเอก เจ้าของ Sleeping For Less ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับการทำ Application
แบบ Quantity(เน้นจำนวน) กับ Quality (เน้นคุณภาพ) – สรุปคือต้องใช้ ฝีมือทั้งคู่ครับ

Quantity ก็ยากในแบบของมัน คือต้องหาวิธีทำให้มันให้ได้เยอะๆ
Quality นี่ต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้ในการออกแบบต่างๆ

สรุปแล้วต้องเก่งทั้งคู่ครับ และก็ทิ้งท้ายว่า ยังมีที่ว่างสำหรับ Quality เสมอ
ส่วนตัวคิดว่าสาย Quality มันเหมือนกันสร้าง Brand ด้วย และเราก็ดูแลมันง่ายกว่า
เผื่อฟลุ้คๆ อยู่ได้ยาวเลย

สัมภาษณ์, พูดคุย และ ถามตอบกับแขกรับเชิญ

Session นี้เป็นการพูดคุยระหว่าง 3 องค์กรที่ดังในวงการ Mobile Application คือ OakBee, Wongnai และ Stamp
(เห็นรับสมัครพนักงานอยู่ที่ blognone ด้วยครับ สนใจ กดที่นี่ เลยครับ)
ได้แชร์ประสบการณ์ที่ได้เจอมาเกี่ยวกับการรับสมัครงาน Mobile Developer ในปัจจุบัน
Mobile Developer มีความต้องการในตลาดสูง แต่ก็ว่างงานสูงด้วยเช่นกัน

แนวโน้มของเด็กจบใหม่ (แย่ลงเล็กน้อย)

  • มีความอดทนต่ออุปสรรคลดลง
  • ชอบ shortcut (copy-paste driven)
  • เล่นหลายภาษามากเกินไป

Junior VS Senior ความต่าง

Junior : เอา basic มาทำงานจริงและ join team ได้
Senior : เข้าใจเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป, แก้ปัญหาได้, วางโครงสร้างและดูแล Junior

  • พื้นฐาน / ประสบการณ์
  • การพูดเช่นการสอน การนำเสนอ, การแสดงความคิดเห็น, การประชุมกันภายในทีม
  • การตัดสินใจ

กี่คนถึงจะรับ

ประมาณ 10 คนรับ 1 คน (10/1)

ชื่อมหาลัย

เป็นแค่การความหวังจากผู้สัมภาษณ์เท่านั้น Programmer
เป็นอาชีพที่สามารถวัดผลงานกันได้เลย อาจจะดู code กันเลย

อยากได้แบบไหน

  • มีทัศนคติที่ดี
  • ทำงานเป็นทีม
  • ตั้งใจ / สนใจในด้านนี้จริงๆ
  • เข้าใจ code ไม่ใช่แค่ว่า กอบแปะ ทำงานได้
  • สัมภาษณ์ดูผลงาน – อธิบาย code เลย ถ้าอธิบายได้โอเคเลย
  • ถ้าไม่เก่งมากอาจดูว่าคนนี้ เรียนรู้ได้ และสนใจที่จะเรียนรู้
  • ต้องมีความคิด ทุกอย่างเป็นไปได้ (ยิ่งพวก hardaware คือเป็นสิ่งที่คนยังไม่ค่อยทำกันในประเทศไทย)

ย้ายสาย

ต้องแสดงถึงความสนใจ จริงจัง จริงๆ ถ้าทำให้เราเห็นได้ก็ โอเค

ทำ แล้วเจ้ง

ต้องดุตลาดด้วยเวลาเราพัฒนาอะไร

Work @ Home – ทำงานจากบ้าน

ตอนนี้ก็มีบ้าง ซึ่งต้องอยู่ที่ผลงาน ความเชื่อใจ ความรับผิดชอบ เช่น ทำงานมาด้วยกันซักพักแล้ว คนนี้ มีความรับผิดชอบก็อนุญาต

รู้กว้าง vs รู้ลึก

  • Ookbee – ปกติ บริษัทจะมีทั้งสองซึ่ง เรามีตำแหน่งสำหรับทั้งสองแบบอยู่แล้ว เวลาเลือกก็ดูว่าคนนี้เหมาะสำหรับอะไร
  • Wongnai – อยากได้คนรู้ลึกเป็นพิเศษ แต่ยังไงก็ควรจะต้องมองให้ภาพรวมให้ออก
  • Stamp – แล้วแต่ตำแหน่งเช่นคนคุม stock ก้ต้องรู้กว้างๆหน่อย

สรุปทิ้งท้ายหากต้องการเป็น mobile developer

  • basic ต้องแน่น
  • ไม่สนอายุงาน
  • ไม่สนสถาบัน (แต่แอบคาดหวังเล็กๆ)
  • เชี่ยวชาญและสนใจในสิ่งที่ทำอยู่
  • รักที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
  • ทำงานร่วมกันเป็นทีมได้
  • เข้าใจเรื่อง ui ux
  • แชร์ความรู้ให้กับผู้อื่นได้
  • มีความอดทนสูง